พ.ต.ท.อดุลย์ โพธากาญ สวป.สน.บางเขน พร้อมด้วยร้อยเวร 2-0 สายตรวจ ฝึกทบทวนการปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม

วันนี้ 19 มี.ค.2568เวลา 16.10 น.พ.ต.ท.อดุลย์ โพธากาญสวป.สน.บางเขนพร้อมด้วยร้อยเวร 2-0 สายตรวจ ฝึกทบทวนการปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม *ท่าทางการตรวจอาวุธปืน*ท่าทางการใช้อาวุธปืน 4 ท่า*-Low combat ready(กึ่งเตรียมพร้อมจู่โจม)*-Hight combat target(เตรียมพร้อมจู่โจม)*-Su position(พักปืน)*-High port(พักปืนประกอบการเคลื่อนที่)*-การตรวจค้นมาตรฐานสายตรวจ SOPก่อนออกปฏิบัติหน้าที่

รายงานผลการปฏิบัติ การตั้งจุด ว.43 ป้องกันอาชญากรรม วันนี้ 19 มี.ค.68

วันนี้ 19 มี.ค.68 เวลาประมาณ 02.00 น. ▪️บางเขน 2-3พร้อมกำลังเลิก ตั้งจุด ว.43 หน้าปั๊ม ปตท.ถนนเทพรักษ์ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ▪️การปฏิบัติ▫️ตรวจค้นรถยนต์ จำนวน – คัน ▫️ตรวจค้น รถ จยย. 10 คัน▫️ตรวจค้น รถยนต์ 5 คัน▫️ตรวจค้น บุคคล 20 คน ▪️ผลการปฏิบัติ ▫️ว.20 อาวุธมีด 2 ราย

ร่วมกันจับกุม นายกฤษณะ หรือเอ ไพร่ทอง อายุ 39 ปี ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง

  ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขนพ.ต.ท.สรรพิชญ์ ศิริสุนทร รอง ผกก.ป.สน.บางเขนพ.ต.ท.สุนทร ไตรเวช สวป.สน.บางเขน วันนี้ (18 มี.ค. 68) เวลาประมาณ 19.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน นำโดย ร.ต.อ.ยงยุทธ เกตุแดง ตำแหน่ง รอง สวป. สน.บางเขน พร้อมด้วย ด.ต.พงษ์พัฒน์ เนื่องมหา,ส.ต.ท.ปรีชา วงษ์ช้าง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สน.บางเขน ได้ร่วมกันจับกุม นายกฤษณะ หรือเอ ไพร่ทอง อายุ 39 ปี ที่อยู่ 118 หมู่ 3 ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เลขประจำตัวประชาชน (1-6011-00032-85-4)สถานที่จับกุม บริเวณห้าแยกวัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานครโดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) และขับรถขณะมีสารเสพติดภายในร่างกายพร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาวใส ชนิดกลมแบนเม็ดสีส้ม จำนวน 10 เม็ด 2. รายงานผลการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ โรงพยาบาลสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีพร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบตามกฎหมายดังนี้1.ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้และคำให้การของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้2.ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะพบทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความได้3.ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะแจ้งให้กับทางญาติทราบถึงการถูกจับกุมที่สามารถดำเนินการได้ พฤติการณ์โดยย่อ วันนี้ ( 18 มี.ค. 68 ) เวลาประมาณ 19.05 น. ขณะที่ เจ้าหน้าที่สายตรวจสถานีตำรวจนครบาลบาลเขน รหัสประจำสายตรวจ 1221 ได้ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้ขับออกตรวจมาถึงบริเวณห้าแยกวัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พบ นายกฤษณะ หรือเอ ไพร่ทอง (ทราบชื่อและสกุลภายหลัง) ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกุ๊ปปี้ สีบรอนซ์ ทะเบียน 9กก 837 กทม. มีท่าทีมีพิรุธน่าสงสัย เจ้าหน้าตำรวจสายตรวจชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุดและได้แสดงตัวขออนุญาติทำการตรวจค้น ก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกจับดูจนเป็นที่พอใจแล้วในที่เกิดเหตุมีแสงสว่างจากเสาไฟฟ้า และไฟฉายจากเจ้าหน้าที่สามารถมองเห็นในระยะ 50 เมตรได้อย่างชัดเจน ด.ต.พงษ์พัฒน์ฯ เป็นผู้ตรวจค้น โดยมี ส.ต.ท.ปรีชาฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจคู่ตรวจยืนดูการตรวจค้นอยู่บริเวณใกล้เคียงมองเห็นการตรวจค้นได้อย่างชัดเจน ผลการตรวจค้น พบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดกลมแบนเม็ดสีส้มจำนวน 10 เม็ด โดยซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงฝั่งซ้ายในของนายกฤษณะฯ (ผู้ถูกจับ) จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งแจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้นายกฤษณะฯ (ผู้ถูกจับ) ทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และจากการสังเกตของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่าผู้ต้องหามีท่าทางคล้ายคนเสพยาเสพติด จึงสอบถาม ผู้ต้องหา ว่าเสพยาเสพติดให้โทษหรือไม่ ซึ่ง ผู้ต้องหา ได้ให้ถ้อยคำด้วยความสมัครใจ โดยไม่มีผู้ใดให้คำมั่น สัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับ หรือการกระทำโดยมิชอบ ประการอื่นว่าตนเองได้เสพยาบ้ามา ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตัวส่งตรวจปัสวาวะที่ โรงพยาบาลสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ปรากฏมีผลเป็นบวก หรือมีสารเสพชนิดเมทแอมแฟตามีนในร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) และขับรถขณะมีสารเสพติดภายในร่างกาย และได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง มายัง สถานีตำรวจนครบาลบางเขน พร้อมทั้งแจ้งสิทธิและข้อกล่าวให้ผู้ถูกจับทราบอีกครั้งว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) และขับรถขณะมีสารเสพติดภายในร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจัดทำบันทึกการจับกุมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานผลการจับกุมฝ่ายป้องกันปราบปรามสายตรวจชุดที่ 2 สน.บางเขน

วันที่ 18 มีนาคม 2568ร่วมทำการจับกุมผู้ต้องหา ครอบครองยาบ้า,เสพยาบ้า, ผู้ต้องหา 1 ราย 1 คน ยาบ้า 2 เม็ด ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน,พ.ต.ท.สรรพิชญ์ ศิริสุนทร รอง ผกก. ป.สน.บางเขน พ.ต.ท.สุนทร ไตรเวชสวป.สน.บางเขน สั่งการให้ ร.ต.ต.คมสันต์ รักการ รอง สว.(ป)สน.บางเขน พร้อมบางเขน 1232ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาดังนี้ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาดัง นายศักดิ์ดา ไชยันโต อายุ 30 ปี1-4506-00194-536178 หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ชัยอำเภอ พนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมของกลาง 1. ยาเสพติดเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เม็ดสีส้มกลมแบน มีตัวอักษร WY ประทับอยู่ด้าน บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ใสแบบปากถุง เลื่อนเปิด กดปิด จำนวน 1 ถุง รวม 2 เม็ด ใน ถุงใส่ซองแว่นตาของผู้ของผู้ต้องหาขณะตรวจค้น2. รายงานผลตรวจการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ สถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขโดยกล่าวหาว่า 1. มียาเสพติดเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุและจับกุมตัว เมื่อวันที่ 18 มีค.68เวลาประมาณ 10.30 น. บริเวณภาย ปากซอย รามอินทรา 23 แยก 2แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ในการจับพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ… เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกลุ่มได้ ใกล้ออกตรวจป้องกันเหตุและอาชญากรรม มาถึงที่เกิดเหตุได้ พบ นายศักดิ์ดา ไชยันโต อายุ 30 ปี(ผู้ต้องหาทราบชื่อภายหลัง)จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น โดยก่อนตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายศักดิ์ดาฯ ดูจนเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้นพบ ยาเสพติดเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เม็ดสีส้ม กลมแบน มีตัวอักษร WY ประทับอยู่ด้าน บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ใสแบบปากถุง เลื่อนเปิด กดปิด จำนวน 1 ถุง จำนวน 1 ถุง รวม 2 เม็ด ในถุงใส่ซองแว่นตาของผู้ของผู้ต้องหาขณะขณะตรวจค้น (ของกลางรายการที่ 1) ร.ต.ต.คมสันต์ ฯ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ยืนดูอยู่ใกล้ๆ ขณะทำการตรวจค้น จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สังเกตพบว่า นายศักดิ์ดามีลักษณะคล้ายคนเสพยาเสพติดให้โทษจึงสอบถามนายศักดิ์ดาฯ ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่อย่างไร ซึ่ง นายศักดิ์ฯ ได้ให้ถ้อยคำด้วยความสมัครใจ โดยไม่มีผู้ใดให้คำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับ หรือกระทำโดยมิชอบประการอื่น ว่าตนเองเสพยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวนายญัฐพลฯ มาที่ สน.บางเขนเพื่อตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้นด้วยชุดทดสอบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะประเภทตลับชนิดเมทแอมเฟตามีน ผลการตรวจปัสสาวะพบ(สารเสพติดให้โทษเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวอย่างปัสสาวะของนายจาตุภูมิ ฯ โดยซีลปิดฝาขวดอย่างดีต่อหน้า นายณัฐพลฯ พร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะอีกครั้งที่สถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะปรากฏว่าพบสารเสพติดให้โทษเมทแอมเฟตามีนชนิดยาบ้าในปัสสาวะของ นายจาตุภูมิ ฯ ปรากฏตามหนังสือรายงานผลการตรวจปัสสาวะ (ตามเอกสารประกอบบันทึกการจับกุม) จึงมีหลักฐานตามสมควรเชื่อได้ว่า นายณัฐพลฯ ได้เสพยาบ้าเข้าสู่ร่างกายจริง จากนั้น ร.ต.ต.คมสันต์ฯ จึงแจ้งแก่นายณัฐพล ฯ ว่าต้องถูกจับและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ มียาเสพติดเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบจนเข้าใจดีแล้วแต่นายณัฐพลฯ ไม่ประสงค์จะสมัครใจเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จัดทำบันทึกจับกุมและได้แจ้งข้อหาพร้อมทั้งสิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตรวจสอบสูงข่มโทลล์เวย์ ว 10 ใต้สะพานข้ามแยกบางเขน เส้นทางเรียบร้อยพร้อมปฎิบัติสภาพอากาศปลอดโปร่ง

18 มี.ค. 68 เวลา 11.05 น.บางเขน 1 พร้อมด้วย บางเขน 2,2-3,2-0 ว 4 เส้นทาง 095ตรวจสอบสูงข่มโทลล์เวย์ ว 10 ใต้สะพานข้ามแยกบางเขนเส้นทางเรียบร้อยพร้อมปฎิบัติสภาพอากาศปลอดโปร่ง

ได้รับแจ้งจาก สำนักงานเขตบางเขน ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีบุคคลเร่ร่อน เป็นชายไม่ทราบชื่อ พักอาศัยอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ

วันนี้18 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. ได้รับแจ้งจาก สำนักงานเขตบางเขนขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีบุคคลเร่ร่อน เป็นชายไม่ทราบชื่อ พักอาศัยอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน 2-3,2-0 พร้อมกำลังสายตรวจ 1222,1232 นำชายดังกล่าว ว 25 สน.บางเขน เพื่อดำเนินการต่อไป

ตรวจเยี่ยมชุมชนสามัคคีร่วมใจ ประชาคมตามโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568

วันนี้ 17 มี.ค. 2568 เวลา 16.00 น.พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขนพ.ต.ท.สรรพิชญ์ ศิริสุนทร รอง ผกก.ป.สน.บางเขนพ.ต.ต.ไพโรจน์ ปานเจริญ สวป.(ชส.)สน.บางเขนร.ต.อ.สุธนต์ ธรรมมา รอง สวป.สน.บางเขนพร้อมชุด ตชส.สน.บางเขนและ สายตรวจเขตฯตรวจเยี่ยมชุมชนสามัคคีร่วมใจ ประชาคมตามโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568 และรับทราบถึงปัญหาภายในชุมชนตามโครงการ strong Togetherแจ้งเบาะแสยาเสพติด และปฏิบัติงานคนหาผู้เสพในชุมชน เข้ารับการรักษาตามนโยบายและมอบข้าวสาร หน้ากากอนามัยให้กับผู้ป่วยที่ติดเตียง ณ ที่ทำการชุมชนสามัคคีร่วมใจ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

ร่วมกันจับกุม นายสรสิช หรือแหน หอมกรุ่น อายุ 34 ปี ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

บันทึกการจับกุมสถานที่บันทึก ห้องปฏิบัติการสายตรวจ สน.บางเขนวัน/เดือน/ปี ที่บันทึก วันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 22.40 น.วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม วันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 22.10 น.สถานที่จับกุม ร้านแบงค์เก่า ภายในตลาดยิ่งเจริญ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯเจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.สรรพิชญ์ ศิริสุนทร รอง ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.สุนทร ไตรเวช สวป.สน.บางเขน , ร.ต.ต.ชัยรัตน์ดีเรือง รอง สวป.สน.บางเขน , ด.ต.ภูริพัฒน์ อุทัยดา , ด.ต.กังกาล พลทองมากได้ร่วมกันจับกุม นายสรสิช หรือแหน หอมกรุ่น อายุ 34 ปี เลขบัตรประชาชน 1-4305-00249-94-1ที่อยู่ 99/91 หมู่ที่ 8 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับ ได้แจ้งและดำเนินการตามกฎหมายในที่จับกุมแล้ว ดังนี้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบแล้วว่าต้องถูกจับเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”พร้อมด้วยของกลาง 1.ธนบัตร ใบละ 100 บาท จำนวน 2 ใบ 2.ธนบัตร ใบละ 50 บาท จำนวน 2.ใบ 3. ธนบัตร ใบละ 20 บาท จำนวน 6 ใบ 4.ธนบัตร ใบละ 10 บาท จำนวน 4 ใบ5.เหรียญ 5 บาท จำนวน 1 เหรียญ 6.เหรียญ 50 สตางค์ 1 เหรียญรวมเป็นเงิน 465.50 บาทพร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิ์ให้ผู้ถูกจับทราบตามกฎหมายดังนี้1.ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ 2.ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้3.ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะได้พบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ4.ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมที่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวกและไม่เป็นการขัดขวางการจับหรือการควบคุมผู้ถูกจับหรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตให้ผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี พฤติการณ์แห่งการจับกุม เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 22.10 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัย ชื่อ นายจริน มีสมมนต์ ที่ตลาดยิ่งเจริญ ได้ควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ไว้ จากนั้นบางเขน 20 บางเขน 1254 จึงได้ไปรับตัว ที่ป้อมตลาดยิ่งเจริญ ทราบได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายสรสิช หรือแหน หอมกรุ่น อายุ 34 ปี เลขบัตรประชาชน 1-4305-00249-94-1 ที่อยู่ 99/91 หมู่ที่ 8 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีฯ พบของกลองที่ถุงสีม่วง (ตามรายการของกลาง) จึงได้ทำการตรวจยึดเป็นของกลาง นายสรสิชฯ รับว่าเงินที่ได้ลักมาจากร้านแบงค์เก่า จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง (ตามรายการของกลาง) แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหากับ นายสรสิชฯ ว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” และแจ้งสิทธิให้ทราบ ณ ที่ทำการจับกุมนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางมาจัดทำบันทึกจับกุมที่ ห้องปฏิบัติสายตรวจ สน.บางเขน จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบอีกครั้ง นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอนึ่ง ในการจับกุมและควบคุมตัวในครั้งนี้เจ้าพนักงานผู้จับได้บันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับ และควบคุม จนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนไว้แล้ว (กรณีมีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถกระทำได้ให้บันทึกเหตุนั้นไว้ เป็นหลักฐานไว้ว่าเพราะเหตุใด) เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับมิได้มีการบังคับ ขู่เข็ญ หรือให้สัญญาใด ๆ กับผู้ใด มิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้ใด เสียหาย หรือเสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ และมิได้เรียกร้องเอาเอาทรัพย์สินมาเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือ ผู้อื่น และมิได้ทำร้ายร่างกายผู้ใดให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมิได้กระทำการอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านบันทึกฉบับนี้ให้ผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องฟังแล้วรับว่าถูกต้องตรงกับความเป็นจริงทุกประการและ “ได้มอบสำเนาบันทึกการจับกุมให้แก่ผู้ถูกจับเรียบร้อยแล้ว” จึงให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน

© 2022 by Bangkhen Metropolice station