รายงานผลการจับกุมฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.บางเขน (ชุดเคลื่อนที่เร็ว) วันที่ 22 มีนาคม 2568 ร่วมทำการจับกุมผู้ต้องหา ครอบยาไอซ์ฯและเสพยาไอซ์ (นน. 0.45 กรัม) ผู้ต้องหา 1 ราย 1 คน
ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน,พ.ต.ท.สรรพิชญ์ ศิริสุนทร รอง ผกก. ป.สน.บางเขน พ.ต.ท.อดุลย์ โพธากาญ สวป.สน.บางเขน สั่งการให้ ร.ต.ต.ธีระศักดิ์ สมภพ รอง สว.(ป)สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุและจับกุมตัว เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น.
ในชุมชนรุ่นใหม่พัฒนา ท้ายซอยพหลโยธิน 51 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาดังนี้
นางสาวขนิษฐา หรือจิ๊บ ศรีทับทิม อายุ 44 ปี บัตรประจำตัวประชาชน (3-1408-00232-28-7)
ที่อยู่ 71 ถนนอรุณอัมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลป์ยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ชนิดเกร็ด สีขาวขุ่น จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก
รวมถุงทั้งสิ้น 0.45 กรัม
ผู้ต้องหาขณะตรวจค้น
2. รายงานผลตรวจการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
โดยกล่าวหาว่า
1.“มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
2. “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์แห่งการจับกุม เมื่อวันที่ (22 มีนาคม 2568) เวลาประมาณ 18.30 น. ขณะ ร.ต.ต.ธีรศักดิ์ สมภพ ได้ออกตรวจพื้นที่ผ่านมาถึงบริเวณชุมชนรุ่นใหม่พัฒนา ท้ายซอยพหลโยธิน 51 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พบนางสาวขนิษฐา หรือจิ๊บ ศรีทับทิม อายุ 44 ปี (ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว ท่าทางมีพิรุธ ลุกลี้ ลุกลน ลักษณะคล้ายคน เสพยาเสพติดให้โทษ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพยายามจะเดินเลี่ยงหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เรียกให้หยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและขอทำการตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จากนั้น ร.ต.ต.ธีรศักดิ์ฯ ได้สั่งการให้ ด.ต.กำธรฯ เป็นผู้ทำการตรวจค้นตัวนางสาวขนิษฐาฯ แต่เนื่องจาก นางสาวขนิษฐาฯเป็นผู้หญิงจึงได้ให้แสดงความบริสุทธิ์ด้วยการตรวจค้นตนเอง โดยนางสาวขนิษฐาฯได้รับว่ายาไอซ์อยู่ในมือซ้ายและได้ยื่นส่งมอบ ให้ ร.ต.ต.ธีรศักดิ์ฯ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ชนิดเกร็ด สีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก ชนิดแบบมีหูรูดปิด-เปิด เมื่อ ร.ต.ต.ธีรศักดิ์ฯ ตรวจสอบเบื้องต้นว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน)จริง จึงแจ้งให้กับ นางสาวขนิษฐาฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบจนเข้าใจดีแล้ว ร.ต.ต.ธีรศักดิ์ฯ จึงได้นำตัวนางสาวขนิษฐาฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง มาที่ สน.บางเขน เพื่อทำการตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้นด้วยชุดทดสอบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะชนิดตลับ ปรากฏมีผลเป็นบวก หรือมีสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ในร่างกายจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวอย่างปัสสาวะของ นางสาวขนิษฐาฯ โดยซีลฝาขวดอย่างดีต่อหน้า นางสาวขนิษฐาฯ พร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะอีกครั้งที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะปรากฏว่าพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน(ยาไอซ์)ในร่างกายของ นางสาวขนิษฐาฯ ปรากฏตาม หนังสือผลการตรวจปัสสาวะสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (ตามเอกสารประกอบบันทึกการจับกุม) จึงมีหลักฐานตามสมควรเชื่อได้ว่า นางสาวขนิษฐาฯ เสพยาไอซ์เข้าสู่ร่างกาย จากนั้น ร.ต.ต.ธีรศักดิ์ฯ จึงแจ้งนางสาวขนิษฐาฯ อีกครั้งว่าต้องถูกจับในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” เพิ่มอีกข้อกล่าวหา แล้วแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบอีกครั้งจนเข้าใจดีแล้ว นางสาวขนิษฐาฯ ไม่ประสงค์ที่จะเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จัดทำบันทึกการจับกุม บันทึกชี้ยืนยันของกลางประกอบคำรับสารภาพพร้อมทั้งได้แจ้งข้อหาและสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
© 2022 by Bangkhen Metropolice station